ในยุคสมัยที่ต้องใช้ข้อมูลและการสื่อสารจำนวนมหาศาล สิ่งที่จะช่วยให้การจัดการรับส่งข้อมูลเป็นไปอย่างราบรื่น เป็นระบบและรวดเร็วก็คือเครื่อง server นั่นเอง ยิ่งในองค์กร ธุรกิจต่าง ๆ ที่ต้องรับข้อมูลและใช้การสื่อสารจำนวนมากก็มักจะต้องใช้เครื่อง server จำนวนหลายเครื่อง
ยิ่งมีเครื่อง server มากก็ยิ่งต้องใช้พื้นที่จัดวางตัวเครื่องมากขึ้น อีกทั้งตัวเครื่อง server ก็เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทหนึ่ง เมื่อต้องใช้พลังงานไฟฟ้ามหาศาลก็ยิ่งก่อให้เกิดความร้อนได้ง่ายมาก อุปกรณ์ที่จะช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ก็ตือตู้ Rack นั่นเอง
ในบทความนี้จะพาคุณผู้อ่านไปทำความรู้จักกับตู้ Rack คืออะไร rack server คืออะไร มีความสำคัญอย่างไรต่อการวางระบบ network หากต้องการจะติดตั้งตู้ Rack จะต้องพิจารณาอย่างไรบ้าง ไปอ่านกันได้เลย
ตู้ Rack คืออะไร
ตู้ Rack คือตู้ที่ใช้เก็บอุปกรณ์ไอทีต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น rack server, server computer, อุปกรณ์เน็ตเวิร์ค สายสัญญาณที่ใช้เชื่อมกับอุปกรณ์ต่าง ๆ หรืออาจใช้เก็บกล้องวงจรปปิด เครื่องขุด bitcoin หรืออุปกรณ์อื่น ๆ ก็ได้เช่นกัน ทั้งนี้เพื่อให้สามารถจัดวางอุปกรณ์เหล่านี้ได้ในพื้นที่จำกัดและยังช่วยให้การวางระบบ Networkสามารถทำได้สะดวกขึ้นด้วย
Rack สำคัญอย่างไร
เมื่อพูดถึงอุปกรณ์ไอที หลายคนมักจะมองข้ามตู้ rack ไปซะอย่างนั้น ถึงแม้ว่าเจ้าตู้ Rack จะไม่ได้เป็นอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับระบบไอทีโดยตรง แต่จริง ๆ แล้วตู้ Rack เป็นเสมือนตัวซัพพอร์ตที่ช่วยให้การทำงานของอุปกรณ์ไอทีอื่น ๆ เป็นไปอย่างราบรื่นขึ้น
โดยความสำคัญหลัก ๆ ของตู้ Rack เลยก็คือช่วยให้สามารถจัดวางเครื่อง server ได้จำนวนมากในพื้นที่ที่จำกัด เป็นสิ่งที่ปฏิเสธได้ยากว่าหลาย ๆ องค์กรจะต้องมีห้อง server ที่เป็นจุดศูนย์รวมข้อมูลขององค์กรทั้งหมดไว้
และการที่มีห้อง server นั่นหมายความว่าภายในห้องก็จะต้องมีเครื่อง server จำนวนมาก แถมในแต่ละปี ๆ ก็ต้องมีจำนวนข้อมูลที่สะสมมากขึ้นเรื่อย ๆ จำนวนเครื่อง server ก็ต้องมากขึ้นไปโดยปริยาย เพื่อให้สามารถจัดเก็บเครื่อง server ได้มากและเป็นระบบ จำเป็นต้องใช้ตู้ rack เข้ามาช่วยจัดการปัญหาเหล่านี้
ตู้ Rack จะช่วยให้สามารถวางอุปกรณ์ไอที เครื่อง server ได้มากในพื้นที่จำกัด และยังช่วยลดขั้นตอนการวางระบบ Network อีกทั้งการดูแลรักษาสามารถทำได้ง่ายกว่าเดิม
ประโยชน์ของตู้ Server Rack
ตู้ Rack อุปกรณ์ที่โดยมองข้ามบ่อย ๆ แต่แท้จริงแล้วตู้ Rack กลับมีประโยชน์ต่อระบบไอทีอย่างมาก
1. ประหยัดพื้นที่สำหรับติดตั้ง
ตู้ Rack จะเป็นตู้ที่มีหลาย ๆ ชั้น ทำให้สามารถจัดวาง rack server ได้หลายเครื่องในตู้เดียว ทำให้ประหยัดพื้นที่ใช้สอยไปได้มาก และทำให้มีพื้นที่ติดตั้ง server เพิ่มขึ้นในอนาคตได้อีกด้วย
2. ทำให้ภายในห้อง server ดูสะอาดเป็นระเบียบ
นอกจากตัวเครื่อง server แล้วสิ่งที่เป็นตัวกินพื้นที่ในห้องเลยก็คือสายสัญญาณ และถ้ามีจำนวนเครื่อง server หรือมีการเชื่อมต่อมาก ๆ ก็ยิ่งทำให้ภายในห้องดูรก ไม่เป็นระเบียบ ตู้ Rack จะสามารถจัดสายสัญญาณให้อยู่ภายในตู้อย่างเป็นระเบียบได้ ทำให้ภายในห้อง server ดูสะอาดและเป็นระเบียบยิ่งขึ้น
3. ช่วยให้สามารถจัดการ แก้ปัญหาได้ง่ายกว่า
เป็นปกติหากวัน ๆ หนึ่งระบบ server จะล่มขึ้นมา แต่หากในองค์กรนั้นมีเครื่อง server มาก ๆ อาจทำให้เข้าค้นหาจุดที่เป็นปัญหาได้ยาก การจัดเก็บเครื่อง server ไว้ภายในตู้ Rack ก็จะช่วยให้สามารถเข้าตรวจหาจุดที่เกิดปัญหาและเข้าแก้ไขปัญหาได้ง่ายกว่า
4. ปกป้องเครื่อง server สายสัญญาณและอุปกรณ์ไอทีจากภายนอกได้เป็นอย่างดี
อุปกรณ์ไอทีเหล่านี้ก็เป็นกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างหนึ่ง จึงมักจะเซนซิทีฟกับฝุ่นละอองและน้ำค่อนข้างมาก การที่จัดเก็บเครื่อง server หรืออุปกรณ์ไอทีไว้ภายในตู้ Rack ก็จะช่วยป้องกันเครื่องserver จากสิ่งเหล่านี้ได้เป็นอย่างดี หมดกังวลเครื่องช็อตเครื่องพังจากน้ำและฝุ่นไปได้เลย
อีกทั้งยังป้องกันสัตว์เลื้อยคลาน แมลง หรือหนูเข้ามากัดสายไฟหรือไปทำให้เครื่องช็อตได้อีกด้วย
5. ระบายความร้อนที่เกิดจากการทำงานของระบบ
ระบบสื่อสาร การจัดเก็บข้อมูลอินเตอร์เน็ต ซอฟแวร์ต่าง ๆ ล้วนต้องใช้พลังงานไฟฟ้าทั้งนั้น และยิ่งมีการรันข้อมูลมาก ๆ ก็ยิ่งทำให้เกิดความร้อนได้ง่าย หากไม่มีระบบระบายความร้อนดี ๆ อาจทำให้เครื่องโอเวอร์ฮีตจนพังได้ ตู้ Rack จะมีระบบระบายความร้อนเป็นอย่างดี ช่วยลดปัญหา server ฮีตได้
ตู้ Rack ประเภทต่าง ๆ
ตู้ Rack มีหลายประเภท แต่ละประเภทก็มีคุณสมบัติต่างกัน ขึ้นอยู่กับพื้นที่ติดตั้งและการใช้งาน ดังนี้
1. Network Rack
Network Rack หรือที่เรียกกันอีกอย่างว่า Open Rack หรือตู้ Rack แบบเปิด ลักษณะของตู้ Rack แบบนี้จะเป็นตู้แบบเปิดโล่งตามชื่อเลย สามารถระบายอากาศได้ดี มีน้ำหนักเบาและราคาถูกมาก เหมาะที่จะวางในพื้นที่เล็ก ช่วยประหยัดพื้นที่ใช้สอยเป็นอย่างดี
แต่ตู้ Network Rack สามารถรับน้ำหนักได้ไม่มาก จึงไม่ควรวางเครื่อง server ซ้อนกันมากเกินไป อีกทั้งเพราะตู้เป้นลักษณะเปิดโล่ง จึงไม่กันน้ำ กันฝุ่นละออง และไม่สามารถปกป้องเครื่อง server สายสัญญาณจากแมลง หนู และสัตว์เลื้อยคลานได้ ดังนั้นจึงเหมาะกับพื้นที่ที่ค่อนข้างสะอาดและไม่มีปัญหาเรื่องฝุ่นกับความชื้น
2. Tower Rack
Tower Rack หรือตู้ Rack แบบตั้งพื้น ตู้ Rack ประเภทนี้จะมีขนาดใหญ่ แข็งแรงและทนทานที่สุด ขนากตู้ Rack มีหลากหลายขนาดให้เลือกตั้งแต่ 15U ไปจนถึง 45U เลยทีเดียว (U = Unit Rack, 1U = 4.445 cm. หรือ 1.778 นิ้ว)
ตัวตู้ Rack ประเภทนี้จะสามารถรองรับน้ำหนักได้มากกว่าตู้ Rack แบบอื่น ๆ สามารถจัดวางเครื่อง server หลาย ๆ เครื่องได้ และเพราะสามารถวางเครื่อง server ได้มาก ตัวตู้จึงมีระบบระบายความร้อนอย่างพัดลมระบายอากาศอยู่ในตัว และตู้มักจะออกแบบให้บริเวณประตูตู้มีช่องระบายอากาศเพื่อให้ระบายความร้อนได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีล้อเลื่อนด้านล่างตู้ ทำให้สามารถเคลื่อนย้ายได้สะดวกด้วย
แต่ข้อจำกัดของตู้ Tower Rack คือมีราคาแพงและอาจไม่เหมาะกับพื้นที่จำกัดเท่าไหร่นัก
ตู้ Tower Rack มีอยู่ 3 ประเภท ได้แก่
- ตู้ Rack เป็นตู้ที่สามารถระบายความร้อนได้ไม่มาก เหมาะกับการจัดเก็บอุปกรณ์ Network จำนวนไม่กี่เครื่อง สายสัญญาณและเครื่องสำรองไฟขนาดเล็ก
- ตู้ Server Rack เป็นตู้ที่สามารถระบายความร้อนได้ดีระดับหนึ่ง เหมาะกับการจัดเก็บเครื่อง server อุปกรณ์วางระบบ Network ประมาณหนึ่ง เครื่องสำรองไฟขนาดกลาง
- ตู้ Data Center Rack เป็นตู้ที่สามารถระบายความร้อนได้ดีมาก โดยตู้ประเภทนี้จะเหมาะกับการติดตั้งภายในห้อง Server หรือห้อง Data center ที่มีอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างเครื่อง server เครื่องสำรองไฟขนาดใหญ่ สายสัญญาณเป็นจำนวนมาก
3. Wall Rack
Wall Rack หรือตู้แรคแบบแขวน เป็นตู้ rack ขนาดเล็กที่จะติดตั้งบนผนังก็ได้หรือจะวางไว้บนชั้นหรือบนตู้ก็ดี เหมาะกับการเก็บอุปกรณ์ขนาดเล็กและน้ำหนักเบา เช่น เราเตอร์ กล้องวงจรปิด อุปกรณ์บันทึกต่าง ๆ
ตู้ Wall Rack จะแบ่งประเภทจากระบบระบายความร้อนได้อีก 3 แบบ
- Wall Rack เป็นตู้ Rack ทั่วไป เหมาะกับการจัดเก็บอุปกรณ์ที่ไม่ได้ต้องการระบายความร้อนเท่าไหร่นัก
- Front Perforated Wall Rack เป็นตู้ Rack ที่เหมาะกับการจัดเก็บอุปกรณ์ที่ต้องการระบายความร้อนระดับหนึ่ง
- All Perforate Wall Rack เป็นตู้ Rack ที่เหมาะกับการจัดเก็บอุปกรณ์ที่ต้องการระบายความร้อนเป็นพิเศษ
หลักการติดตั้งจัดวางตู้ Rack
การจัดวางอุปกรณ์ต่าง ๆ ในตู้ Rack อย่างถูกต้องก็จะช่วยให้สามารถประหยัดพื้นที่จัดเก็บได้มาก อีกทั้งยังช่วยในเรื่องการระบายความร้อนได้ดีด้วย โดยหลักการจัดวางอุปกรณ์ภายในตู้ Rack มีดังนี้
- อุปกรณ์ที่มีขนาดใหญ่และมีขนาดยาว ควรวางไว้ด้านล่างตู้ Rack เพราะส่วนใหญ่แล้วพัดลมระบายความร้อนของตู้ Rack มักติดตั้งอยู่ด้านบน หากอุปกรณ์ที่ใหญ่และยาวไปบังพัดลมอาจทำให้การระบายความร้อนภายในตู้ทำได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ
- อุปกรณ์ที่มีน้ำหนักมากควรวางไว้ด้านล่างตู้ Rack เช่นเดียวกันการวางของบนชั้น ปกติแล้วของที่มีน้ำหนักมากก็ไม่ควรวางไว้บนชั้นสูง ๆ เพราะมีโอกาสที่จะชั้นยุบ ของด้านล่างเสียหายได้
- อุปกรณ์ที่ต้องการมอนิเตอร์หรืออุปกรณ์ที่ต้องเข้าถึงบ่อย ๆ ควรวางไว้ระดับสายตา หากมีปัญหาก็จะสามารถมองเห็นได้ชัดเจน
- สายไฟควรจัดวางไว้ด้านล่างตู้ Rack เพื่อป้องกันการเกิดสัญญาณรบกวนสายสื่อสาร
วิธีเลือกตู้ Rack
ตู้ Rack มีหลายประเภท จะมีวิธีเลือกตู้ Rack อย่างไรที่เหมาะกับงานของเราที่สุด สามารถดูได้จาก…
- ขนาดพื้นที่จัดวางตู้ Rack หากพื้นที่มากก็สามารถเลือกตู้ Rack แบบตั้งพื้นได้แต่หากพื้นที่ใช้สอยน้อยตู้ Rack แบบแขวนก็อาจเหมาะสมกว่า
- ขนาดอุปกรณ์ที่ต้องการจัดเก็บในตู้ Rack หากมีอุปกรณ์เยอะและน้ำหนักมาก ก็อาจต้องเลือกใช้ตู้ Rack แบบตั้งพื้นเพราะมีความแข็งแรงและใหญ่ แต่หากอุปกรณ์ไม่มาก ขนาดเล็ก ๆ ก็สามารถเลือกตู้ Rack แบบแขวนได้
- เพราะตู้ Rack มีหลายขนาด ควรจะเลือกตู้ Rack ที่สามารถใส่อุปกรณ์ที่ต้องการจัดเก็บได้และมีพื้นที่ความลึกเหลือย่างน้อยประมาณ 15-20 ซม. เพื่อให้สามารถระบายความร้อนได้ดีกว่า
- ดูอุปกรณ์ที่ต้องการจัดเก็บในตู้ Rack ว่าเป็นอุปกรณ์ที่ต้องการระบบระบายความร้อนหรือไม่ ต้องการมากแค่ไหน
- ควรมีถาดรองรับอุปกรณ์ที่ไม่สามารถยึดในตู้ Rack ได้ เช่น เราเตอร์ ขนาดเล็ก เป็นต้น (ปกติอุปกรณ์ที่ใส่ในตู้ Rack อย่าง Rack server จะมีขนาดที่พอดีสามารถยึดในตู้ Rack ได้)
สรุปเกี่ยวกับ Rack
ตู้ Rack เป็นเสมือนซัพพอร์ตที่ช่วยให้การทำงานของระบบเป็นไปได้ดีและสะดวกยิ่งขึ้น ช่วยในการวางระบบ Network ได้ง่ายกว่า อีกทั้งยังช่วยป้องกันอุปกรณ์ server จากอันตรายต่าง ๆ ได้อีกทาง ดังนั้นควรให้ความสำคัญในการเลือกประเภทของตู้ Rack ให้เหมาะสมต่องาน