ระบบสัญญาณเตือนไฟไหม้ (Security System Smoke)

วันนี้ Personet จะมาพูดถึงข้อสำคัญของระบบสัญญาณเตือนภัยไฟไหม้ ที่จะปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของคุณ

ในยุคที่เทคโนโลยีพัฒนายิ่งขึ้นเรื่อยๆ ระบบรักษาความปลอดภัยจึงเข้ามามีบทบาทมากยิ่งขึ้นในพื้นที่ของเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งระบบตรวจจับควันไฟ (Smoke Detector) ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของคุณจากเหตุการณ์เพลิงไหม้

ควันไฟเป็นสัญญาณอันตรายที่มักมาพร้อมกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันอย่างเพลิงไหม้ ระบบตรวจจับควันไฟจึงเป็นด่านแรกที่จะช่วยให้ชีวิตและทรัพย์สินของคุณปลอดภัย

>>หลักการทำงานของระบบ ตรวจจับควันไฟ (Smoke Detector) <<

ระบบตรวจจับควันไฟทำงานโดยใช้เซ็นเซอร์ตรวจจับอนุภาคควันที่เกิดขึ้นจากการเผาไหม้ เมื่อเซ็นเซอร์ตรวจพบควันไฟ ระบบจะส่งสัญญาณเตือนภัยออกมาทันที ซึ่งสัญญาณเตือนภัยนี้สามารถเป็นเสียงไซเรน แสงไฟ หรือระบบแจ้งเตือนผ่านแอปพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟนของคุณได้ #ล้ำสมัยสุดๆ ><

>>ประเภทของระบบตรวจจับควันไฟ<<

1.แบบอิออนไนเซชัน(Ionization): มีความไวต่อควันไฟที่เกิดจากการเผาไหม้ที่รวดเร็ว เหมาะสำหรับการติดตั้งในห้องครัวหรือบริเวณที่มีควันจากการประกอบอาหาร

2.แบบโฟโตอิเล็กทริก(Photoelectric): มีความไวต่อควันไฟขนาดเล็กและควันที่ลอยตัวช้า เหมาะสำหรับการติดตั้งในห้องนอน ห้องนั่งเล่น หรือบริเวณที่มีเฟอร์นิเจอร์และสิ่งของจำนวนมาก

>>ข้อสำคัญของระบบตรวจจับควันไฟ Smoke Detector<<

1.ตรวจจับควันและความร้อน: ระบบตรวจจับควันไฟสามารถตรวจจับควันและความร้อนที่เกิดจากเพลิงไหม้ ได้อย่างรวดเร็ว ช่วยให้คุณมีเวลาในการอพยพหนีไฟ ลดความเสี่ยงต่อการสูญเสียชีวิต

2.ส่งเสียงเตือนภัย: เมื่อระบบตรวจจับไฟตรวจพบควันหรือความร้อนจะส่งเสียงเตือนภัยดัง เพื่อให้คุณทราบถึงอันตรายที่เกิดขึ้นและรีบดำเนินการแก้ไขสถานการณ์

3.เชื่อมต่อกับระบบอื่นๆ: ระบบตรวจจับควันไฟบางรุ่นสามารถเชื่อมต่อกับระบบอื่นๆ เช่น ระบบดับเพลิงอัตโนมัติ หรือระบบแจ้งเตือนไปยังบุคคลที่เกี่ยวข้องเพื่อให้คุณทราบถึงอันตรายที่เกิดขึ้นและรีบดำเนินการแก้ไขสถานการณ์

4.ติดตั้งง่าย: ระบบตรวจจับควันไฟส่วนใหญ่ใช้งานง่าย ติดตั้ง สะดวก ไม่ยุ่งยาก เหมาะสำหรับทุกพื้นที่ เช่น บ้านพักอาศัย สำนักงาน โรงแรม ฯลฯ

5.บำรุงรักษาง่าย: ระบบตรวจจับควันไฟมีการบำรุงรักษาง่ายเพียงทำความสะอาดและทดสอบระบบเป็นประจำเพื่อให้มั่นใจว่าระบบทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

>>การเรื่องเครื่องตรวจจับควันให้เหมาะกับสถานที่ของคุณ<<

1.ประเภทของสถานที่

บ้านพักอาศัย: ควรเลือกแบบ Photoelectric เนื่องจากมีโอกาสเกิดการเตือนภัยปลอมที่น้อยกว่า

โรงแรม,โรงพยาบาล: ควรเลือกแบบ Ionization เนื่องจากมีความไวสูง เหมาะสำหรับการตรวจจับควันไฟที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว

โรงงานอุตสาหกรรม: ควรเลือกแบบ Ionization หรือแบบ Photoelectric ขึ้นอยู่กับลักษณะของวัสดุที่ใช้ในโรงงาน

Fact. ควรเลือกเครื่องตรวจจับควันไฟที่มีมาตรฐาน มอก. 2609-2560 ในการติดตั้งเครื่องตรวจจับควันไฟให้สูงจากพื้นประมาณ 10-12 ฟุต และควรทดสอบการทำงานเป็นประจำอย่างน้อยเดือนละ 1-2 ครั้ง ควรเปลี่ยนแบตเตอรี่ทุก 1 ปี และทำความสะอาดบำรุงรักษาเป็นประจำ

สรุป

มั่นใจในการเลือก เครื่องตรวจจับควันไฟ เราหวังว่าบทความนี้คุณจะสามารถตัดสินใจเลือกเครื่องตรวจจับควันไฟที่เหมาะสมกับสถานที่ใช้งานของคุณ

หากใครกำลังมองหาเครื่องตรวจจับควันไฟขอให้นึกถึงเรา Personet เรามีพร้อมทั้งทีมช่างในการติดตั้งเครื่องตรวจจับควัน (Smoke Detector) ที่ประสบการณ์สูง รวมไปถึงสำรวจพื้นที่และการทดสอบระบบ เพื่อให้เครื่องตรวจจับควันทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ จะช่วยปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของคุณจากเหตุการณ์ไม่คาดฝัน

Personet รับติดตั้งเครื่องตรวจจับควันไฟ (Smoke Detector)