Wide Area Networks หรือที่เรียกกันว่า แวน หรือ WAN คือเครือข่ายคอมพิวเตอร์แบบระยะไกลหลายกิโลเมตร การเชื่อมโยงของเครือข่ายแวนอาจจะเป็นระหว่างเมือง หรือระหว่างประเทศ บริษัทใหญ่ที่มีสำนักงานหลายแห่งนิยมใช้ทั้งในการเชื่อมต่อข้อมูล การส่งและรับข้อมูลต้องผ่านตัวกลางเช่นดาวเทียมหรือสายเคเบิลขึ้นอยู่กับการใช้งานและขนาดของข้อมูล
เลือกหัวข้ออ่าน
- Wide Area Network (WAN) ถูกออกแบบมาเพื่ออะไร
- ระบบการส่งสัญญาณของ Wide Area Networks (WAN) มีกี่ประเภท ทำงานอย่างไร
- โปรโตคอล Wide Area Networks (WAN) คืออะไร
- องค์ประกอบของ Wide Area Networks (WAN) คืออะไร
- วิธีเพิ่มประสิทธิภาพให้กับ Wide Area Networks (WAN) คืออะไร
Wide Area Network (WAN) ถูกออกแบบมาเพื่ออะไร
Wide Area Networks (WAN) นั้นถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานต่างๆ ที่มีข้อมูลสำหรับบริษัทที่ต้องเข้าถึงข้อมูลในรูปแบบดิจิทัล บริษัทส่วนใหญ่ใช้ WAN ดังนี้
- สื่อสารในเครือข่ายของบริษัททั้งแบบเสียงและวิดีโอ
- เข้าถึงข้อมูลและข้อมูลสำรองที่อยู่ในระยะไกล
- โฮสต์แอปพลิเคชั่นที่ใช้ภายในบริษัท
- แบ่งปันข้อมูลระหว่างลูกค้าและพนักงานของบริษัท
- ใช้งานแอปพลิเคชั่นในระบบคลาวค์
Wide Area Networks ช่วยให้บริษัทมีประสิทธิภาพในการเข้าถึงข้อมูลได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัยทำให้การดำเนินธุรกิจไม่เกิดการขัดข้อง
ระบบการส่งสัญญาณของ Wide Area Networks (WAN) มีกี่ประเภท ทำงานอย่างไร
ระบบการส่งสัญญาณของ Wide Area Networks แบ่งออกเป็นเครือข่ายสองประเภทใหญ่ๆ คือ เครือข่ายส่วนตัวหรือ Private Network และ เครือข่ายสาธารณะหรือ Public Data Network
Private Network (เครือข่ายส่วนตัว)
เครือข่ายส่วนตัว หรือ Private Network เป็นระบบเครือข่ายแวนที่ใช้ภายในบริษัทเท่านั้นโดยเฉพาะบริษัทที่มีหลายสาขา บริษัทจะสร้างระบบเครือข่ายเพื่อเชื่อมต่อสำนักงานใหญ่กับสาขาต่างๆ ที่มีอยู่
ข้อดีของเครือข่ายส่วนตัวคือการเก็บรักษาข้อมูลที่เป็นความลับของบริษัทอีกทั้งบริษัทยังสามารถขยาย ควบคุมและดูแลเครือข่ายแวนของตนไปยังตามสาขาหรือจุดที่ต้องการได้ แต่ต้องแลกกับค่าใช้จ่ายที่สูงมากเมื่อเทียบกับการใช้เครือข่ายสาธารณะในการส่งของข้อมูล
การที่ไม่ได้ส่งข้อมูลต่อเนื่องทำให้ค่าใช้จ่ายสูงขึ้นอีกทั้งบริษัทยังต้องหาช่องทางตัวกลางในการเชื่อมโยงของแต่ละสาขาและอาจจะไม่สามารถหาตัวกลางไปยังสาขาหรือพื้นที่ที่ต้องการเชื่อมต่อได้
PDN: public data network (เครือข่ายสาธารณะ)
เครือข่ายสาธารณะ หรือ Public Data Network (PDN) เป็นเครือข่ายแวนที่มีบริษัทที่เป็นบุคคลที่สาม ทำหน้าที่ในการเดินระบบของเครือข่ายแวนอีกทั้งยังให้บริการเช่าช่องทางตัวกลางในการสื่อสารกับบริษัท
ข้อดีคือค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่าการสร้างระบบเครือข่ายส่วนตัวเพราะมีหลายบริษัทมาช่วยแบ่งค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น อีกทั้งยังสามารถใช้งานได้อย่างรวดเร็วเพราะไม่ต้องเสียเวลาสร้างเครือข่ายใหม่ทำให้เป็นที่นิยมอย่างมากกับหลายๆ บริษัท บริษัทยังเลือกบริการตามราคา พื้นที่บริการ และความเร็วของการส่งข้อมูลที่เหมาะสมกับความต้องการของบริษัทอีกด้วย
โปรโตคอล Wide Area Networks (WAN) คืออะไร
โปรโตคอลของ Wide Area Networks มีหลายโหมดขึ้นอยู่กับการใช้งานและความสามารถในส่งข้อมูลต่อระยะทาง ตัวอย่างโปรโตคอลของแวนที่มีใช้กันมีดังนี้
โหมดถ่ายโอนข้อมูลแบบอะซิงโครนัส
Asynchronous Transfer Mode (ATM) หรือ โหมดถ่ายโอนข้อมูลแบบซิงโครนัสเป็นเทคนิคที่ใช้กันมากในยุคแรกๆ ของแวน เป็นโหมดที่ใช้การส่งจากการจัดระเบียบข้อมูลลงในเซลล์ รองรับเซลล์ที่มีขนาด 53 ไบต์ การใช้มัลติเพล็กซ์เพื่อนำข้อมูลในเซลล์จากหลายๆ ที่มาร่วมอยู่ในที่เซลล์เดียว ATM รองรับข้อมูลทุกประเภทไม่ว่าจะเป็น วิดีโอ ภาพและเสียง
SONET/SDH
Synchoronous Optical Network (SONET) หรือ Synchoronous Digital Hierarchy (SDH) เป็นโปรโตคอลการสื่อสารที่ใช้เป็นหลักในการขนส่งบนระบบแวนโดยกำหนดแบบการสื่อสารเป็นจุดต่อจุดและต้องมีการใช้ไฟเบอร์ออปติกหรือใยแก้วแสงเป็นตัวเชื่อมต่อ
TCP/IP
Transmission Control Protocol/Internet Protocol หรือ TCP/IP เป็นโปรโตคอลการสื่อสารพื้นฐานจากต้นทางถึงปลายทางบนเครือข่ายคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อื่นๆ พร้อมกับเป็นโปรโตคอลที่ใช้เชื่อมต่อบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต เวอร์ชันล่าสุดที่มีการใช้กันมากคือ IPv6
Frame Relay
เฟรมรีเลย์ หรือ Frame Relay เป็นเทคโนโลยีที่ใช้สำหรับการส่งข้อมูลระหว่าง LAN หรือ ปลายทางของระบบแวน โดยมีการรวมข้อมูลเป็นรูปแบบเฟรมและส่งผ่านเครือข่ายที่ใช้ร่วมกัน Frame Relayทำงานเป็นเลเยอร์เพื่อให้การถ่ายโอนข้อมูลสะดวกขึ้น
องค์ประกอบของ Wide Area Networks (WAN) คืออะไร
องค์ประกอบของWAN network มีทั้งหมด 7 อย่างและอิงตามโมเดล Open Systems Interconnection (OSI) ซึ่งเป็นโมเดลที่สร้างมาตรฐานและกำหนดแนวทางของระบบโทรคมนาคม โมเดล OSI นั้นรวมเทคโนโลยีเครือข่ายทั้ง7 ซึ่งแตกต่างกันและทำงานต่างกันแต่พอจับมารวมเข้ากันจะทำให้แวนทำงานได้ 7 องค์ประกอบมีดังนี้
– องค์ประกอบทางด้านกายภาพ
องค์ประกอบทางด้านกายภาพเป็นการโอนและโยกย้ายข้อมูลดิบในรูปแบบ สัญญาณออปติคัล คลื่นแม่เหล็กไฟ้าหรือบิตเลขโดยผ่านสื่อการส่งสัญญาณเครือข่ายต่างๆ ตัวอย่างเช่นเทคโนโลยีไร้สายและไฟเบอร์ออปติกหรือใยแก้วแสง
– องค์ประกอบด้านลิงก์ข้อมูล
องค์ประกอบด้านลิงก์ข้อมูลคือโปรโตคอลหรือกฎการสื่อสารที่ใช้ในการทำงานขององค์ประกอบทางด้านกายภาพ องค์ประกอบด้านลิงก์ข้อมูลกำหนดและตัดสินว่าจะเริ่มเชื่อมต่อหรือหยุดการเชื่อมต่อเมื่อไรและการทำงานขององค์ประกอบนี้ยังส่งผลถึงการส่งแพ็กเก็ตจากอุปกรณ์หนึ่งไปถึงอีกอุปกรณ์หนึ่ง
– องค์ประกอบด้านเครือข่าย
องค์ประกอบด้านเครือข่ายเป็นตัวจัดการและสร้างกฎเกณฑ์การเดินทางของแพ็กเก็ตข้อมูลผ่านเครือข่าย โดยจะกำหนดว่าต้องทำอย่างไรบ้างเมื่อเกิดการสูญเสียของข้อมูล ช่วยเรื่องการปรับสมดุลของเครือข่ายและกำหนดเส้นทางของแพ็กเก็ต
– องค์ประกอบด้านการขนส่ง
องค์ประกอบด้านการขนส่งกำหนดการทำงานและขั้นตอนการส่งข้อมูลพร้อมทั้งจัดประเภทของข้อมูลและอาจจะบรรจุข้อมูลลงในแพ็กเก็ตเพื่อง่ายต่อการส่งข้อมูลเพื่อการถ่ายโอนข้อมูลนั้น Transmission Control Protocol (TCP) นั้นจะจัดการการสื่อสารโดยการเรียงแพ็กเก็ตที่เป็นคำขอและการตอบสนองเมื่อมีการเข้าเว็บไซต์การจองต่างๆ
– องค์ประกอบด้านเซสชัน
องค์ประกอบด้านเซสชัยเป็นตัวจัดการเรื่องเซสชันและการเชื่อมต่อระหว่างแอปพลิเคชันประจำที่กับระยะไกลและยังสามารถเปิด ปิด และยกเลิกการเชื่อมต่อของสองอุปกรณ์ ตัวอย่างขององค์ประกอบด้านเซสชันคือ การเชื่อมต่อระหว่างคอมพิวเตอร์ที่ใช้ที่บ้านและเซิร์ฟเวอร์ของสำนักงานใหญ่ที่มีข้อมูลระบบการจอง องค์ประกอบด้านเซสชัยเป็นตัวเปิดการเชื่อมต่อหลังจากได้รับการยืนยัน เป็นการเชื่อมต่อตามหลักตรรกวิทยาและไม่ใช่การเชื่อมต่อตรงตามวัตถุ
– องค์ประกอบด้านการนำเสนอ
องค์ประกอบด้านการนำเสนอเป็นเตรียมและนำเสนอข้อมูลที่กำลังส่งผ่านในเครือข่าย เช่นต้องมีการเข้ารหัสผ่านเพื่อมิให้อาชญากรไซเบอร์ที่ค่อยเฝ้าดูในระบบแวนเข้าถึงข้อมูลที่สำคัญและละเอียดอ่อนได้
– องค์ประกอบด้านแอปพลิเคชัน
องค์ประกอบด้านแอปพลิเคชันเป็นตัวกำหนดวิธีที่ผู้ใช้จะใช้งานยังไงในเครือข่ายโดยไม่ได้สนใจว่าการทำงานของเครือข่ายนั้นจะเป็นยังไง เช่นการจัดการแปลงของโซนเวลา การส่งคำเชิญ และแอปพลิเคชันอื่นๆ ในระบบการจองปฏิทินในบริษัท
วิธีเพิ่มประสิทธิภาพให้กับ Wide Area Networks (WAN) คืออะไร
วิธีทำให้ประสิทธิภาพของ Wide Area Networks (WAN) ให้ดีขึ้น เป็นการรวมเทคนิควิธีที่ช่วยปรับปรุงการทำงานของระบบ WAN ที่เกี่ยวกับ ความหนาแน่นของข้อมูล ปริมาณงานต่อหน่วยเวลา การวัดความล่าช้า การออกแบบของระบบ WAN และ การจัดทิศทางการรับส่งของข้อมูล ล้วนมีผลต่อการทำงานและประสิทธิภาพของ WAN เทคนิคและวิธีที่ใช้กันส่วนมากในการเพิ่มประสิทธิภาพให้กับ WAN มีดังนี้
กำจัดการเชื่อมต่อ
การเชื่อมต่อที่มากเกินไปทำให้ระบบอาจทำให้ระบบเกิดความล่าช้าได้ดังนั้นผู้ดูแลระบบเครือข่าย WANต้องสามารถกำจัดจำนวนการเชื่อมต่อ จำนวนผู้ใช้ กำหนดจำนวนปริมาณการรับและการส่งข้อมูลหรือแบนวิทที่ผู้ใช้แต่ละคนสามารถใช้ได้ต่อครั้ง เช่นการตั้งกฎเพื่อป้องกันการสตรีมวิดีโอของพนักงานบริษัทบนระบบ WAN ของบริษัทได้
แบ่งเซกเมนต์ของระบบเครือข่าย
การแบ่งแบนวิทในเครือข่ายระหว่างแอปพลิเคชันต่างๆ พร้อมกับกำหนดรูปแบบการรับ-ส่งของข้อมูลจะจัดทิศทางและควบคุมการรับ-ส่งของข้อมูลสำหรับแอปพลิเคชันนั้นได้อย่างเหมาะสม ผู้ควบคุมระบบเลือกลำดับความสำคัญของแอปพลิเคชันต่างๆ เพื่อทำให้ประสิทธิภาพของ WANดีขึ้น
เร่งโปรโตคอล
โปรโตคอลบางตัวของ WAN มีการรับส่งข้อมูลที่ถี่และจำนวนมาก ในการส่งคำขอหนึ่งคำขอจะมีการโต้ตอบของข้อมูลไปมาอย่างมาก ดังนั้นการเร่งโปรโตคอลจะทำการรวบข้อมูลที่มีจำนวนมากและลดจำนวนแพ็กเก็ตข้อมูลที่อยู่บนเครือข่าย WAN
จัดทิศทางให้กับการรับส่งข้อมูล
การจัดทิศทางให้กับการรับส่งข้อมูลเป็นการลดปริมาณข้อมูลที่จะส่งผ่านในเครือข่าย เทคนิคที่ใช้กันมีดังนี้
- การซิปหรือการบีบอัดไฟล์ข้อมูล
- การแคชข้อมูลที่มีการเข้าถึงและใช้บ่อยครั้งบนเซิร์ฟเวอร์ท้องถิ่น
- การระบุและลบสำเนาข้อมูลซ้ำซ้อนสำหรับการสำรองข้อมูลและแอปพลิเคชันการกู้คืนข้อมูล
สรุป
Wide Area Networks (WAN) หรือ เครือข่ายวงกว้างนั้นมีบทบาทสำคัญอย่างมากต่อบริษัทใหญ่ที่มีสำนักงานใหญ่และสาขาหลายที่ บริษัทเหล่านี้มีความต้องการที่จะรับส่งข้อมูลที่สำคัญไม่ว่าจะเป็นระหว่างสำนักงานใหญ่กับสาขา สาขากับสาขา หรือพนักงานกับลูกค้าของบริษัท
WAN ยังเป็นเทคโนโลยีที่เชื่อมต่อสำนักงานใหญ่ สาขา แอปพลิเคชันบนคลาวด์ ศูนย์ข้อมูลและที่เก็บข้อมูลบนคลาวด์เข้าด้วยกัน ทำให้การทำงานของบริษัทดีขึ้นบวกกับการเข้าถึงข้อมูลได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัยทำให้การดำเนินธุรกิจมีประสิทธิภาพที่ดีขึ้น