Fiber Optic หรือเส้นใยแก้วนำแสง เป็นเส้นใยขนาดเล็กๆที่จะเป็นตัวกลางนำแสง โครงสร้างของเส้นใยแสงประกอบด้วยหลายๆส่วน ดังนี้
1.ส่วนที่แสงเดินทางผ่านเรียกว่า CORE
2.ส่วนที่หุ้มCORE อยู่เรียกว่า CLAD
ทั้ง CORE และ CLAD เป็น DIELECTRIC ใส 2 ชนิด ซึ่ง DIELECTRIC หมายถึงสารที่ไม่เป็นตัวนำไฟฟ้า เช่น แก้ว พลาสติก
ข้อดี-ข้อเสีย สายไฟเบอร์ออฟติก
ข้อดี
1.สายไฟเบอร์ออฟติก มีการลดทอนสัญญาณต่ำ เมื่อเปรียบเทียบกับ สายทองแดง ทำให้สายไฟเบอร์ออฟติกส่งสัญญาณได้ดี
2.เส้นใยแก้วนำแสงมีคุณสมบัติเป็นฉนวน ไม่นำไฟฟ้า เมื่อไปสัมผัสกับสายไฟเบอร์ออฟติกก็จะไม่ถูกไฟดูด เรียกได้ว่าเป็นอิสระทางไฟฟ้า
3.ไม่มีการรบกวนทางไฟฟ้า เพราะเป็นฉนวน จึงไม่มีการเหนี่ยวนำสัญญาณรบกวนจากภายนอกเข้ามา ทำให้ไม่มีผลกระทบในการรับ-ส่งสัญญาณ
4.สายไฟเบอร์ออฟติกมีค่าแบนวิดท์ (Bandeidth) ในการส่งข้อมูลมากกว่าสายทองแดง ทำให้สามารถบรรจุข้อมูลได้เป็นจำนวนมาก
5.ข้อมูลมีความปลอดภัยสูง เพราะหากต้องการขโมยสัญญาณรั้น ต้องทำการตัด-ต่อกับเส้นใยนำแสงโดยตรง หรือต้องมีการใช้อุปกรณพิเศษซึ่งยากแก่การทำ
6.สายไฟเบอร์ออฟติกมีขานดเล็ก และมีน้ำหนักเบามาก เมื่อเทียบกับสายทองแดง
7.สายไฟเบอร์ออฟติก มีอายุการใช้งานที่นานมาก หากไม่มีอะไรมากระทำกับสาย
ข้อเสีย
1.สายไฟเบอร์ออฟติกไม่สามารถโค้งงอได้เท่าสายทองแดง เนื่องจากการโค้งงอมากๆจะทำให้สายเกิดค่าลดทอนสูง และอาจเกิดการแตกหักได้
2.เปราะบาง และแตกหักง่าย เมื่อมีแรกมากระทำกับตัวสาย จึงต้องระวังมาก
3.การติดตั้งสายไฟเบอร์ออฟติกจะต้องใช้เครื่องมือเฉพาะที่มีราคาแพงในการเข้าหัว และจะต้องใช้ช่างที่มีทักษะความชำนาญ มีประสบการณ์มาติดตั้ง
รู้ถึงข้อดี-ข้อเสียของสายไฟเบอร์ออฟติกกันแล้ว หากใครที่ต้องการจะติดตั้งสายไฟเบอร์ออฟติก ก็เลือกบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญในการรับเหมาเดินสายไฟเบอร์ออฟติกนะ จะได้ใช้งานได้อย่างยาวนานและมีประสิทธิภาพ ส่วนใครที่ติดตั้งไฟเบอร์ออฟติกอยู่แล้วบางบริษัทก็รับทดสอบสายไฟเบอร์ พร้อมกับมีใบทดสอบแสดงอย่างชัดเจน เพื่อเช็คว่าสายที่เราใช้อยู่นั้นมีประสิธิภาพมากแค่ไหน